วันนี้ (27 เม.ย.) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และราชอาณาจักรกัมพูชา บรรลุข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ หรือ CEPA ซึ่งเป็นข้อตกลงที่จะกระตุ้นการเพิ่มและกระจายสินค้าทวิภาคีของทั้ง 2 ชาติ ด้วยการละเว้นการเก็บภาษีศุลกากร และส่งเสริมการค้า การบริการ การลงทุน อันเป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ
การเจรจาความร่วมมือครั้งนี้ นำโดย ดร. ธานี บิน อาห์เหม็ด อัล เซยูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพัน สรศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา
ทาง ดร. ธานี กล่าวว่า “การลงนามครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการค้าขายกับต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เพิ่งเปิดรับการเจรจาการค้ากับต่างประเทศเมื่อเดือนกันยายน ปี 2021”
“กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และข้อตกลงนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานระหว่างเอเชียตะวันออก-ตะวันตก พร้อมเสนอตลาดใหม่แก่ผู้ผลิต นักลงทุน และผู้ให้บริการของเรา รวมถึงสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการขยายภาคการผลิตอาหารและเกษตรกรรมของกัมพูชาไปสู่สายตาโลก ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถบรรลุความทะเยอทะยานด้านความมั่นคงทางอาหารระหว่างเราได้อีกด้วย”
ประกาศ “ปฏิญญาวอชิงตัน” ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์ป้องปรามเกาหลีเหนือ
องค์การอนามัยโลกห่วงซูดาน อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
ผู้นำยูเครน-จีนยกหูคุยครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียรุกราน
ดรคำพูดจาก เว็บสล็อต PG. ธานี กล่าวอีกว่า “การเจรจานี้ใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือน ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงความปรารถนาอันแรงกล้าร่วมกันของเรา ที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีและสร้างโอกาสใหม่ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันต่อไปในอนาคต”
ด้านพัน สรศักดิ์ มองว่าการร่วมมือผ่านข้อตกลง CEPA ระหว่าง 2 ชาตินี้ จะเป็นการเปิดทางไปสู่การค้าเสรีระหว่างประเทศอื่น ๆ ต่อไป เขากล่าวว่า “บทสรุปของการเจรจาครั้งนี้ จบลงมุมมองและความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างเรา เกี่ยวกับเนื้อหาและองค์ประกอบทั้งหมดของ CEPA กัมพูชา-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นับตั้งแต่ริเริ่มการเจรจา”
เขาเสริมว่า “เราเชื่อว่าข้อตกลงนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ดีสำหรับการเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของเราผ่านการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมการไหลเวียนของการค้า และส่งเสริมการลงทุนทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเชื่อมต่อที่มากขึ้นระหว่างอาเซียนและโลกอาหรับ ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก”
รายงานระบุว่า กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทิศทางด้านเศรษฐกิจสดใสที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการเติบโตร้อยละ 5.1 ในปี 2022 ซึ่งข้อตกลงนี้จะมอบโอกาสใหม่สำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญ รวมถึงธัญพืช ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป เครื่องแต่งกาย รองเท้า และเครื่องหนัง
ส่วนทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะได้รับประโยชน์จากโอกาสในการส่งออกใหม่ ๆ เช่น เครื่องจักร น้ำมันและสารหล่อลื่น รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ตลอดจนโลจิสติกส์และอื่น ๆ เช่น การท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหมุนเวียน
ทั้ง 2 ชาติ ต่างพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าทวิภาคีกับอีกหลายประเทศ โดยฝั่งกัมพูชา ลงนามเขตการค้าเสรีร่วมกับจีนและเกาหลีใต้ รวมถึงอาเซียน ส่วนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลงนามความร่วมมือ CEPA ร่วมกับอินเดีย อิสราเอล อินโดนีเซีย และตุรกี
ซึ่งความร่วมมือ CEPA ดังกล่าวเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า จาก 381 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 13 ล้านล้านบาท) ให้แตะถึง 762 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 26 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2030
เรียบเรียงจาก Emirates News Agency-WAM